superslot bz

joker rสถิติที่ “เออร์ลิ่ง ฮาลันด์” จ่อทำลาย -ลุ้นเป็นแข้งจากลีกอังกฤษ ทำประตูมากที่สุดในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเจ้าของสถิติปัจจุบันคือ รุด ฟาน นิสเตลรอย ทำไว้ 12 ประตู ตอนนี้ ฮาลันด์ ทำไปแล้ว 11 ประตู -การทำประตูในลีกสูงสุดของอังกฤษ ฮาลันด์ มิสิทธิ์ทำลายเช่นกัน ถ้านับเฉพาะพรีเมียร์ลีก แอนดี้ โคล กับ อลัน เชียเรอร์ (แข่ง 42 นัด) ทำไว้ 34 ประตู ซึ่ง ฮาลันด์ ทำไปแล้ว 30 ลูก แต่ถ้ารวมสมัยดิวิชั่น 1 ด้วย สถิติเป็นของ ดิกซี่ ดีน ตำนานแข้งเอฟเวอร์ตัน ทำไว้ 60 ประตูในฤดู กาล 1927/28 -มีแนวโน้มที่จะทำลายสถิติยิงประตูมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลเดียว ของ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ (แข่ง 38 นัด) ซาล่าห์ ทำไว้ 32 ประตู -การทำประตูใน UCL มากสุดในฤดูกาลเดียว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ครองแชมป์อยู่ที่ 17 ประตู ตอนนี้ ฮาลันด์ ทำไปแล้ว 11 ประตู ถ้าแมนฯซิตี้ ทะลุถึงรอบชิงก็มีโอกาสทำลาย -รวมถึงการทำประตูทุกถ้วยในยุโรปมากสุดต่อฤดูกาล ก็ถือว่ามีลุ้นแต่อาจยากกว่าสถิตอื่น เพราะแม้ ฮาลันด์ จะทำไปแล้ว 45 ประตู แต่ยังห่างจาก ลิโอเนล เมสซี่ ที่เคยกดไปถึง 73 ประตูสมัยค้าแข้งกับบาร์ซ่า

บอล วัน นี้ สูง ต่ำโดยก่อนหน้านี้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เคยเจรจากับ อองเช่ร์ ถึงความเป็นไปได้ในการดึง อาลี-โช ไปร่วมทีม แต่ติดปัญหาที่ต้นสังกัดเรียกค่าตัวสูงถึง 40 ล้านยูโร

สลาก ล่าสุดมิดฟิลด์ชาวอาร์เจนติน่าเคยมีข่าวโยง ม้าลาย ในช่วงที่ผ่านมา ก่อนกระแสดังกล่าวจะลดลงไปเนื่องจากทีมดัง เซเรีย อา เปิดตัว ปอล ป็อกบา เมื่อไม่นานมานี้

เล่น หวย huayนีโก้ กอนซาเลซ มิดฟิลด์ดาวรุ่งวัย 20 ปีพร้อมอยู่กับ บาร์เซโลน่า ต่อไปในซีซั่นหน้าหลังการพูดคุยแบบเปิดอกกับเทรนเนอร์ ชาบี เอร์นานเดซ ตามรายงานจากมุนโด้เดปอร์ติโบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

ทีเด็ด บอล 888 วัน นี้"ผมคิดว่าตนเองขยับเหลื่อมขึ้นไปก่อนเล็กน้อยดังนั้นผมเลยไม่วิ่งต่อ ถ้าผมวิ่งไปหาบอลผมอาจจะยิงหรือผ่านบอลก็ได้ ตอนนั้นผมคิดว่าตนเองล้ำหน้าเลยไม่ได้สัมผัสบอล

โหลด เบ รา ว์ เซอร์อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินเห็นว่าบอลไปโดนแขนของอูปาเมกาโน และแข้งรายนี้ยกแขนออกมาผิดธรรมชาติด้วย จึงเป่าให้จุดโทษแมนฯ ซิตี้ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ รับหน้าที่สังหาร แต่ดันยิงโด่งข้ามคานออกไป สกอร์ยังคง 0-0นาที 42 เลอรอย ซาเน ครองบอลในเขตโทษแล้วตอกส้นให้ คิงสเลย์ โกมัน สับไกยิงตรงกรอบ เอแดร์ซอน โมไรส์ ต้องทุบออกไป บาเยิร์นยังไม่ได้ประตู และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 0-0ครึ่งหลังนาที 57 แมนฯ ซิตี้สกัดจังหวะบุกของบาเยิร์นได้แล้วสวนกลับเร็ว เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายบอลให้ เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ เลี้ยงผ่านกองหลังหลุดเข้าเขตโทษก่อนยิงเสียบตาข่าย ทีมเยือนนำ 1-0นาที 75 คิงสเลย์ โกมัน หลุดเข้าทางด้านขวาของเขตโทษแล้วล็อกผ่านกองหลังก่อนสับไกยิง ผู้รักษาประตูปัดไปเข้าทาง มาธิส แตล ยิงซ้ำเข้าไป แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าตั้งแต่จังหวะที่โกมันเล่นแล้ว บาเยิร์นยังตีไข่แตกไม่สำเร็จนาที 82 ผู้ตัดสินดูวีเออาร์จังหวะที่ ซาดิโอ มาเน ปั๊มแย่งบอลในเขตโทษกับ มานูเอล อาคันจี ก่อนจะตัดสินว่าอาคันจีทำแฮนด์บอลและเป่าให้จุดโทษบาเยิร์น โยซัว คิมมิช สังหารเข้าไปให้เจ้าบ้านตีเสมอ 1-1นาที 86 สถานการณ์ของบาเยิร์นแย่ไปกว่าเดิมอีก เมื่อผู้ตัดสินแจกใบแดงไล่เทรนเนอร์ โธมัส ทูเคิล ให้ออกจากม้านั่งข้างสนามไปดูเกมบนอัฒจันทร์ ก่อนที่เกมจะจบด้วยผล 1-1 ไปในที่สุดทำให้แมนฯ ซิตี้เป็นฝ่ายชนะสกอร์รวม 4-1 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบเรอัล มาดริด แชมป์เก่าจากสเปนส่วนอีกคู่ “งูใหญ่”อินเตอร์ มิลาน จากอิตาลี เปิดสนามสตาดิโอ จูเซ็ปเป เมอัซซา รับการมาเยือนของ “เหยี่ยวลิสบอน”เบนฟิกา จากโปรตุเกส แมตช์แรกเบนฟิกาแพ้คาบ้าน 0-2สำหรับหนนี้จบด้วยสกอร์ 3-3 เจ้าบ้านได้ประตูจาก นิโคโล บาเรลลา นาที 14, เลาตาโร มาร์ติเนซ นาที 65, ฆัวกิน กอร์เรีย นาที 78 ส่วนทีมเยือนได้จาก เฟรดริก เอาร์สเนส นาที 38, อันโตนิโอ ซิลวา นาที 86, เปตาร์ มูซา นาที 90+5ทำให้อินเตอร์ชนะผลรวม 5-3 ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบเอซี มิลาน ทีมอิตาลีอีกราย และเท่ากับว่ารอบชิงชนะเลิศฤดูกาลนี้จะมีทีมจากอิตาลีอย่างแน่นอนแล้วทั้งนี้ รอบรองชนะเลิศจะเตะเกมแรกวันที่ 9-10 พฤษภาคม ส่วนเกมสองเตะ 16-17 พฤษภาคม