ฉะนั้น ในรอบชิงชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 จะเป็นการแข่งขันระหว่างนักเทนนิสไทยด้วยกันเอง ลักษิกา คำขำ พบกับ อัญชิสา ฉันทะ จึงเป็นที่แน่นอนแล้วว่า เหรียญทอง และเหรียญเงิน ในประเภทนี้จะเป็นของทีมเทนนิสไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มาแล้ว 2 เหรียญทองจากประเภททีมชายและทีมหญิง“ส่วนเป้าหมายต่อไป แน่นอนซีเกมส์ ครั้งที่ 32 จะต้องเข้าร่วมการแข่งขันและทำผลงานให้ดีที่สุด ส่วนในโอลิมปิกเกมส์ ก็อยากจะผ่านเข้าไปในยรอบสุดท้ายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ขอไปในฐานะผ่านระดับ A (ได้สิทธิ์โดยอัตโนมัติ)ให้ได้”
มาโน่ กล่าวปิดท้ายว่า อยากฝากถึงฝ่ายจัดการแข่งขันว่าสภาพสนาม (เธียน ตรวง สเตเดียม)) ตอนนี้มันแย่มากๆ ทั้งหญ้าหลุดแล้วก็มีทรายเต็มไปหมด ซึ่งสภาพไม่เหมาะสมจะทำการแข่งขันเลย อยากให้ช่วยดูแลสนามกลับมาสภาพดีอีกครั้ง เพราะไม่ใช่แค่ตน แต่เชื่อว่าโค้ชอินโดนีเซียก็คงอยากเล่นในสนามที่ดีด้วยเช่นกันสำหรับสถิติระหว่างทีมชาติไทย กับ อินโดนีเซีย เจอกันมาทั้งหมด 22 ครั้ง ไทยชนะ 14 เสมอ 6 และแพ้ไป 2 ครั้ง ไทยยิงได้ 49 ประตู อินโดนีเซียยิงได้ 14 ประตู ทว่าครั้งล่าสุดที่เจอกันคือเกมนัดเปิดสนามซีเกมส์ 2019 ซึ่งไทยแพ้ 0-2 ก่อนจะตกรอบแรกไป
การแข่งขันวิ่งผลัด 4 400 เมตรชาย ทีมไทยประกอบด้วย ไม้ 1 อภิสิทธิ์ ฉ่ำศรี ไม้ที่ 2 ศิริพล พันแพ ไม้ที่ 3 รวมโชค เสมาทอง และไม้สุดท้ายจอชชัว โรเบิร์ต แอทคินสัน ที่ลุ้นทองที่ 4 ของตัวเอง หลังคว้าไปแล้ว 3 ทองในซีเกมส์ครั้งนี้ จาก วิ่ง 400 เมตรชาย, วิ่ง 800 เมตรชาย และผลัดผสม 4 400 เมตรข่าวแนะนำเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 2565 ในประเภทหญิงเดี่ยว รอบก่อนรองชนะเลิศ ออมสิน อัญชิสา ฉันทะ สาวไทยวัย 19 ปี มือ 703 ของโลก เจ้าของเหรียญทองแดง หญิงเดี่ยวซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ใช้ความเฉียบขาด พลิกชนะ เต็ง 3 อัลดิลา ซูตเจียดี้ จากอินโดนีเซีย วัย 27 ปี มือ 404 ของโลก ดีกรีเหรียญทอง หญิงเดี่ยวซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ได้ขาดลอย 2-0 เซต 6-1, 6-0 โดยในซีเกมส์ครั้งก่อน อัญชิสา แพ้ อัลดิลา ซูตเจียดี้ ในรอบรองชนะเลิศ 2-6, 2-6 ถือเป็นการล้างตาสำเร็จ ส่วนครั้งนี้ อัญชิสา ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบ เต็ง 1 ชาเนลล์ ฟาน เหวียน (เวียดนาม) ที่ชนะ เจไนลา โรส ปรุลลา (ฟิลิปปินส์) 6-1, 6-2ข่าวแนะนำ
ต่อด้วยคู่ชิงเหรียญทอง ณัฐพันเลิศ เอื้ออภิญญากุล กับ ชิดชนก หิรัญเพิ่ม ดวลกับ นอง เย ตุน และ นิว ชิท โซ จากเมียนมา ซึ่งทั้งสองคู่สู้กันอย่างสูสีผ่านไปครึ่งทางเสมอกัน 8-8 หลังจากนั้นทั้งสองฝั่งยังสู้กันสูสี แต่สุดท้ายเป็นฝั่งไทยที่นิ่งกว่า เอาชนะไปได้ 16-12 คว้าเหรียญทองไปครองได้สำเร็จโดยหลังจบการแข่งขันทั้ง ณัฐพันเลิศ เอื้ออภิญญากุล กับ ชิดชนก หิรัญเพิ่ม กล่าวร่วมกันว่า รู้สึกดีใจมากที่คว้าเหรียญทองมาได้สำเร็จ โดยตอนแรกที่โดนนำ 0-4 โค้ชได้เข้ามาบอกให้โฟกัสอยู่กับปืนของเรา โฟกัสกับเกมของเรา ก็ช่วยเตือนสติให้กลับมาได้ ต้องขอบคุณกันและที่เป็นคู่ที่ดีช่วยเหลือกันมาอย่างดีทั้งการซ้อมและการแข่งจริง เหรียญทองนี้ขอมอบให้คนไทยทุกคนเซ็ตสอง ตะกร้อหนุ่มไทย ที่มีความมั่นใจมากขึ้นยังคงอาศัยชั้นเชิงเพลงฟาดลูกตะกร้อที่เด็ดขาดของ ภูตะวัน โสภา ฟาดไล่ทำแต้ม อินโดนีเซีย ได้อย่างต่อเนื่องพร้อมกับทำคะแนนเข้าป้ายเอาชนะ อินโดนีเซีย ไปได้อีก 21-7จากผลดังกล่าวทำให้ ไทย ต้อนเอาชนะ อินโดนีเซีย ไปได้ 2-0 เซ็ต 21-13, 21-7 ผงาดคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ คว้าเหรียญทองตะกร้อซีเกมส์ได้เป็นเหรียญที่ 3 ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้